โต๊ะทำงานกลุ่ม 6ที่นั่ง - ภาพรวม

Wiki Article

ความหลงใหลเกี่ยวกับ โต๊ะทำงานกลุ่ม

14 ตุลาคม 2022 ในยุคโควิดที่ผ่านมา วิถีชีวิตการทำงานคนเราก็เปลี่ยนไป การ Work From Home จึงเป็นเหมือน New Trend สำหรับคนทำงานในยุคนี้ ทุกคนหันมาทำงานที่บ้านกันมากขึ้น สิ่งที่เลี่ยงไม่ได้เลยคือ ‘การนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน’ ดังนั้น เทรนด์ใหม่ที่ตามมาจึงเกี่ยวกับโต๊ะทำงาน อย่าง ‘Desk Set-up’ เราอาจจะเคยเห็นในมุมของการจัดโต๊ะแบบหลัก Ergonomic เพื่อสุขภาพกันมาบ้าง แต่จริงๆแล้ว ยังมีอีกมุมนึงของการจัดโต๊ะที่เราอาจมองข้ามไป…ซึ่งในมุมมองของต่างชาติ หรือคนไทยบาง Community ที่แชร์ในในโลกออนไลน์อย่าง Facebook,Instagram หรือ Youtube มีการแชร์ไอเดียโต๊ะสวยๆ มู้ดดีๆ บางคนอาจไปถึงการคุมโทนทั้งโต๊ะเลยด้วยซ้ำ คำถามที่ตามมาคือ…ทำไมเขาถึงให้คความสำคัญขนาดนั้น? เคยได้ยินกันไหมว่า…จริงๆแล้ว การแต่งโต๊ะก็เหมือนการแต่งตัว ที่เราสามารถ represent ตัวเองได้อย่างเต็มที่ แค่เรามีโต๊ะสวยๆ เสริมมู้ดของเราให้ดีขึ้นเยอะแล้ว ดังนั้น Dream, Desk จะพามาดู 3 เหตุผลหลักๆ ที่ทำไมคนเราต้องจัดโต๊ะกัน จากรายงานสถิติ, ผู้คนส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่กับโต๊ะทำงาน 5 ชั่วโมงต่อวัน ไม่ว่าจะคนทำงานออฟฟิศ,สายเล่นเกมส์ หรือนั่งเรียนออนไลน์ เราต่างต้องใช้เวลาอยู่ที่โต๊ะคอมทั้งนั้น ซึ่งคงดีไม่น้อย ถ้าเกิดเราจะทำให้โต๊ะทำงานมู้ดดีขึ้น น่าทำงานกว่าเดิม เพิ่มพลัง Productive ขึ้นอีก อย่างที่เกริ่นไปในประโยคข้างต้น จัดโต๊ะก็เหมือนกับการแต่งตัว ที่เราสามารถเติมความครีเอทีพได้ไม่จำกัด ลองสังเกตหลายๆคนที่มาแชร์ไอเดียจัดโต๊ะในกลุ่ม ถึงแม้จะแต่งไปในมู้ดแอนด์โทนเดียวกัน แต่ในดีเทลเล็กๆน้อย เช่น การจัดวางของบนโต๊ะ ก็ต่างกันในสไตล์ของตัวเองอยู่ดี เชื่อว่าทุกคนจะมีสิ่งที่เป็น ‘กำลังใจ’ อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น โมเดลตัวละครที่ชอบจากหนัง,การ์ตูนเรื่องโปรด ซึ่งก็ห้ามไม่ได้ที่จะวางน้องๆ เหล่านั้นอยู่บนโต๊ะทำงานของเรา เพื่อกำลังใจ ผลที่ตามมาคือ…ผู้คนก็จะชอบหาไอเดียในการจัดเรียงลูกรักเหล่านั้นเป็นที่เป็นทาง เพื่อประหยัดพื้นที่และจัดเรียงอย่างสวยงาม ทั้งนี้อาจรวมไปถึงการจัดวางหน้าจอคอม หรืออุปกรณ์จัดโต๊ะคอมด้วย สุดท้ายแล้ว อยากให้มองว่าการจัดโต๊ะคอม ก็คืองานอดิเรกในรูปแบบใหม่ ซึ่งแฮปปี้ในแบบของตัวเองได้ ได้ทั้งประโยชน์ตามหลัก Ergonomic และได้โทนในแบบที่ตัวเองต้องการอีกด้วย แต่ถ้าหากอยากเริ่มลองจัดโต๊ะในแบบของตัวเอง ก็ลองมาที่ Dream, Desk ได้เลย! Cr: บทความ .


โต๊ะทำงานกลุ่ม คือ โต๊ะทำงานที่ออกแบบการใช้งานร่วมกัน โดยสามารถทำได้หลายคน โต๊ะประเภทนี้มีพื้นที่กว้างขวาง มีพื้นที่ใช้สอยทำงานได้อย่างสะดวกสบายอาจจะมีพื้นที่เก็บของที่ให้ความเป็นส่วนตัว สำหรับบุคคลที่ใช้โต๊ะทำงานกลุ่มมักจะเป็นพนักงานที่ต้องทำงานร่วมกันเป็นทีม เช่น ทีมออกแบบ ทีมการตลาด พนักงานออฟฟิศเป็นต้นโต๊ะทำงานกลุ่มอำนวยความสะดวกในการทำงานเป็นทีม และการทำงานร่วมกันโดยจัดเตรียมพื้นที่ทำงานร่วมกันซึ่งหลายคนสามารถทำงานร่วมกันในโครงการได้การทำงานร่วมกันในพื้นที่ที่ใช้ร่วมกัน แต่ละคนสามารถใช้ประโยชน์จากจุดแข็งและแนวคิดของกันและกันเพื่อให้งานสำเร็จลุล่วงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นโต๊ะทำงานกลุ่มส่งเสริมการสื่อสารแบบเห็นหน้ากัน ซึ่งจะนำไปสู่การแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้นการทำงานในสภาพแวดล้อมที่ทำงานร่วมกันสามารถส่งเสริมความรู้สึกสร้างสรรค์และนวัตกรรมได้โดยการเปิดโอกาสให้แต่ละคนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกันโต๊ะทำงานแบบกลุ่มสามารถใช้พื้นที่สำนักงานที่มีจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยรองรับหลายคนในเวิร์กสเตชันเดียว โต๊ะทำงานแบบกลุ่มมักมีพอร์ตจ่ายไฟและพอร์ตข้อมูลในตัว ทำให้บุคคลสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีที่จำเป็นในการทำงานให้เสร็จได้โดยง่าย

ทำไมคนบางคนปรี๊ดแตก ได้ง่ายเหลือเกินทำไมคนบางคนถึงพร้อมที่จะป่วนประสาทเราได้ทุกเวลาทำไมคนบางคนถึงชอบแวะมาคุยกับเราอยู่เรื่อยๆ ทำไมคนบางคนถึงมาทำงานก่อนเวลาหลายชั่วโมง ในขณะที่บางคนมาทำงานตรงเวลาเป๊ะ ทำไมเราเองคุยกับคนอื่นๆ เรื่องเดียวกัน แต่ผลออกมาต่างกันโดยสิ้นเชิง ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง ช่างไม่เหมือนกันเอาเสียเลย ไม่แปลก ที่เราจะรู้สึกแบบนี้ได้ทุกวัน ทุกที่ ทุกเวลา ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นเพื่อน เพื่อนร่วมงาน ลูกค้า เจ้านาย ลูกน้อง กระทั่งสมาชิกในครอบครัวของเราเอง และเหตุผลง่ายๆ ที่เราไม่ทันได้นึกถึง ก็คือ ไม่ว่าเราจะเป็นคนแบบไหน คนส่วนใหญ่ที่อยู่รอบตัวเรา ก็จะมีนิสัยเหมือนเราบ้าง ไม่เหมือนเรา บางครั้ง อาจจะต่างกันสุดขั้ว หรือว่าปัญหาความหงุดหงิดรำคาญใจนั้น เป็นผลมาจาก “การสื่อสาร” นั่นจึงทำให้เราอยากชวนคุณมาทำความเข้าใจทั้ง “ตัวเอง” และ “คนรอบข้าง” แล้วตอบตัวเองให้ได้ว่า ถ้าแบ่งบุคลิกภาพเป็น 4 สี คุณและคนรอบข้างเป็นคนสีอะไร ด้วยการใช้เครื่องมือในการแบ่งบุคลิกภาพของคน โดยโธมัส เอริคสัน ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมมายาวนานกว่า 20 ปีจากประเทศสวีเดน แบ่งบุคลิกภาพคนตามความสนใจ และพฤติกรรมที่แตกต่าง เป็น 4 สี 4 แบบ หรือ เรียกว่า DISA ที่ย่อมาจาก DISA มีที่มาจากการค้นพบทางจิตวิทยา เพื่อทำให้เราเข้าใจและรับมือคนได้ดีขึ้น ว่าจะเป็นด้านการอ่านภาษากาย การโน้มน้าวใจ การสื่อสารกันให้รู้เรื่องมากขึ้น การทำงานด้วยกันได้ดีขึ้น ไปจนถึง การจัดการความขัดแย้งที่เล็กไปจนถึงใหญ่ และที่สำคัญเรายังจะเข้าใจตัวเองได้มากขึ้น ส่วนองค์กรต่างๆ ก็ยังสามารถใช้ DISA สร้างทีมที่ลงตัวและทรงแข็งแกร่งได้อีกด้วย เมื่อเราเข้าใจคนทั้ง 4 สี เราจะรู้วิธีเข้าถึงใจคนมากขึ้น สื่อสารเก่งขึ้น และไม่ต้องปวดหัวกับความขัดแย้งเหมือนที่ผ่านมาถ้าเป็นหัวหน้า ก็จะเข้าใจมากขึ้นว่า จะรับมือลูกน้องที่มีบุคลิกภาพไม่เหมือนกันได้อย่างไร หรือสร้างกลุ่มที่มีความเหมือนกัน หรือ ผสมผสานความแตกต่างที่หลากหลายแต่ลงตัว เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงาน หรือเราอาจกระชับความสัมพันธ์ส่วนตัวบนพื้นฐานของความเข้าใจกันและกันมากขึ้นเป็นสีของผู้นำ จริงใจ กล้าแสดงออก ตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม ชอบสั่งการ คิดเร็ว ตัดสินใจเร็ว ทำทุกอย่างเร็ว ชอบงานยากๆ อยากเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ ชอบเสนอไอเดียใหม่ๆ ชอบแข่งขัน ชอบเอาชนะ มีความสุขในช่วงเวลาที่เป็นผู้ชนะ ถึงแม้จะรู้สึกอยู่ภายในใจตัวเองคนเดียว เช่น การเดินเร็วกว่าคนอื่นๆ การได้ที่จอดรถที่ดีที่สุด การเล่นบอร์ดเกมเอาชนะเพื่อน แม้เกมสนุกแบบเด็กๆ ก็ต้องชนะเท่านั้น! อยู่นิ่งๆ ไม่เป็น มุ่งแต่จะพุ่งไปข้างหน้า แม้จะมีอุปสรรคขวางทาง ถ้าอยู่เฉย คือเสียเวลา ถือคติว่า ชีวิตคนเรามันสั้น ควรต้องลงมือทำทันที เด่นสุดๆ คือ การสู้สุดใจ ในเวลาที่คนอื่นๆ ยอมแพ้ ถ้าได้ตั้งใจไว้แล้ว ก็ต้องทำให้สำเร็จ ถ้างานนั้นมีความสำคัญ ก็จะบุกน้ำลุยไฟทำให้สำเร็จ แต่ถ้าเป็นงานที่ไร้สาระ ก็จะไม่สนใจ และไม่มีอะไรที่น่ารำคาญมากไปกว่าความเชื่องช้า ถ้าประชุมยาวไปเรื่อยๆ ก็จะถามว่าจำเป็นไหมที่ต้องประชุมต่อไป เพราะพูดเรื่องเดิมกันมาตั้ง 20 นาทีแล้วนะธรรมชาติสุดๆ กับการทุ่มเทเต็มที่ในทุกๆ งาน เราจะเห็นว่าไม่มีใครจะทำงานหนักเท่าคนสีแดง คนสีแดง ไม่สนใจว่าคนอื่นคิดอย่างไร เพราะไม่ได้มาเพื่อเอาใจใคร แต่มาเพื่อตัวเอง สนใจแต่ผลลัพธ์ ไม่สนวิธีการ ตัดสินใจได้เร็ว สิ่งที่ยากไม่ใช่สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เมื่อไหร่ที่ตั้งใจ ก็ยากที่จะหยุดได้ เมื่อไหร่ที่ตัดสินใจ ก็จะเต็มที่ คนสีแดงสื่อสารได้อย่างชัดเจน คิดเร็ว เป็นคนขี้เบื่อจึงไม่ลังเลที่จะปรับเปลี่ยนวิธีการตลอดเวลา จนคนรอบตัวไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เกิดอยากจะเปลี่ยน ก็เปลี่ยนซะงั้น!ถ้าสังเกตดูโต๊ะทำงานของคนสีแดง สิ่งของเกือบทั้งหมดบนโต๊ะล้วนเกี่ยวกับงาน และของจำเป็นในการดำรงชีวิตเท่านั้น ดูแล้วโล่งสุดๆ คงไม่มีตุ๊กตาน่ารัก ของเล่นกุ๊กกิ๊กอ้อ! หากต้องไปนำเสนองานกับคนสีแดง พูดบทสรุป เน้นๆ เนื้อ ๆ ไปเลย ถ้าน้ำท่วมทุ่งไปล่ะก็ คนสีแดงจะรู้สึกปุ่ดๆ อยู่ในใจ รีบพูด รีบจบ แล้วแยกย้ายไปทำงานต่อ! เป็นสีของคนมีเสน่ห์ มองเห็นความสุขและสนุกในทุกเรื่อง เป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่น ขับเคลื่อนชีวิตความบันเทิงและผู้คนด้วยเสียงหัวเราะ มองเห็นวันฟ้าใส ในวันที่มืดมน คนสีเหลือง เหมือนกับคนสีแดง ที่ตัดสนใจเร็ว แต่อธิบายเหตุผลของการตัดสินใจไม่ได้ แต่รู้สึกว่า เป็นสิ่งที่ควรทำ คนสีเหลือง มักจะตัดสินใจจากความรู้สึก และสัญชาติญาณของคนสีเหลืองแม่นยำ จนไม่อาจมองข้ามได้ มีความยืดหยุ่น เปิดเผย คิด และสร้างสรรค์ ลงมือทำทันที จูงใจให้คนคล้อยตาได้เก่ง ธรรมชาติสุดๆ คือการมองโลกในแง่ดี ช่วยให้คนอื่นมีความสุข ไม่ปล่อยให้ใครทุกข์เด่นสุดๆ คือความสามารถในการเปลี่ยนสถานการณ์ เพราะคนสีเหลือง มองเห็นทางออกได้เร็วกว่าใคร มองเห็นทางแก้ไขปัญหาที่คนอื่นมองไม่เห็น คนสีเหลือง มีความสามารถพิเศษ ที่จะหักมุม และเปลี่ยนสถานการณ์ให้กลายเป็นดีได้ คนสีเหลือง คิดนอกกรอบ คิดกลับด้าน ไม่กลัวที่จะลองอะไรใหม่ๆ ต้องคิดไอเดียใหม่ๆ อยู่เสมอ ไม่กลัวที่จะทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน ในตอนที่เกิดความคิดสร้างสรรค์ จะไม่ค่อยคิดถึง ระบบ ระเบียบอะไรทั้งสิ้น! ของบนโต๊ะทำงานของคนสีเหลืองเกือบทั้งหมดจะเป็นสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับงาน แต่อาจจะเป็นกระปุกขนมสวยๆ อุปกรณ์เครื่อง เขียนเก๋ๆ ทั้ง ปากกา โพสต์อิทสวยๆ และข้าวของเครื่องใช้ที่สร้างความสุขและบรรยากาศดีๆ ในการทำงานมากมายถ้าจะต้องคุยเรื่องงานกับคนสีเหลืองล่ะก็ อ้อมไปก่อน! ทักทายเม้าท์ให้เพลินๆ แล้วค่อยเข้าประเด็นเรื่องงานล่ะก็ รับรองว่าจะลื่นไหลเลยล่ะ! เป็นสีแห่งความสงบ คนสีเขียว น่าคบ น่าเข้าหา ใจดี พึ่งได้ ง่ายๆ สบายๆ ชอบฟัง ช่างคิด ถ้าเป็นไปได้จะไม่ทำร้ายจิตใจใคร และไม่พูดเรื่องร้ายลับหลังคนอื่น มีความอดทนต่อนานาพฤติกรรมของผู้คน มักจะพยายามปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ สภาพแวดล้อม และคนอื่นๆ เป็นคนที่จะทำทุกอย่างเพื่อรักษาน้ำใจ รักษาความสัมพันธ์อันดีเอาไว้ เราคาดหวังความช่วยเหลือจากคนสีเขียวได้เป็นอย่างดีในยามจำเป็น ถ้าเป็นเด็ก เด็กสีเขียว ก็คือลูกรักที่พ่อแม่ต้องการ คือเด็กที่กินในเวลาที่ควรกิน นอนในเวลาที่ควรนอน และทำการบ้านโดยที่ไม่ต้องคอยบอก คนส่วนใหญ่มักจะเป็นคนสีเขียว เราสามารถพบคนสีเขียวได้ ในทุกที่ ทุกสถานการณ์ ธรรมชาติสุดๆ คือ ผู้ฟังที่ดีที่สุด เรียกว่าคนสีเขียวมีหูพิเศษ สำหรับรับฟังปัญหา อาจไม่ได้แนะนำทางแก้ปัญหา แต่จะเข้าใจสิ่งที่เราบอก คนสีเขียวสนใจในตัวคนอื่นมากกว่าตัวเอง ชอบช่วยเหลือคนอื่นโดยไม่ได้คาดหวังสิ่งตอบแทน จิตใจดีจนอาจถูกเอาเปรียบได้เด่นสุดๆ คือคนที่ทำงานเป็นทีมได้ดี ทีมมาก่อนเสมอ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว กลุ่มเพื่อน ในสังคมที่มีคนสีเขียว ก็จะเป็นสังคมที่เต็มไปด้วยความห่วงใย การใส่ใจ และการดูแล นอกจากนี้ เมื่อไหร่ที่คนสีเขียว บอกจะทำในสิ่งที่เค้าทำได้ ก็มั่นใจได้เลยว่า จะทำจนสำเร็จ อาจไม่เร็วมาก แต่เสร็จภายในเวลาที่ตกลงกันไว้แน่นอนถ้าต้องคุยเรื่องงานกับคนสีเขียว อย่ากดดัน อย่าชักสีหน้า อย่ารำคาญ อ้อมนิดๆ แล้วค่อยสรุปเป็นประเด็นที่ต้องการ คืออย่ารีบพุ่งไปที่ประเด็นที่ต้องการในทันที่ อาจช้านิดหน่อย เพราะทุกการตัดสินใจ ต้องมั่นใจว่าทุกอย่างโอเคบนโต๊ะทำงานคนสีเขียว น่าจะมีรูปครอบครัว หรือรูปกลุ่มเพื่อน หรือรูปทีมงานวางใส่กรอบหรือแปะไว้ เพราะคนสีเขียวรักทุกคนในรูป และนั่นคือกำลังใจการทำงานเลยล่ะเป็นสีของคนประเภทสมบูรณ์แบบนิยม ใส่ใจคุณภาพ ต้องการข้อมูลเชิงลึกในทุกเรื่อง คิดวิเคราะห์แบบมีเหตุผล เพื่อประกอบการตัดสินใจ และมั่นใจได้ว่าถูกต้อง 100% คนสีน้ำเงินมีความสามารถในการทำงานตามลำดับขั้นตอนเป๊ะเว่อร์ และจะคอยตรวจสอบสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา มองโลกเผื่อกรณีเลวร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้ มองโลกตามจริง มองเห็นความผิดพลาด มองเห็นความเสี่ยง ควบคุมอารมณ์ได้ดี ไม่ตอบสนองต่อเหตุการณ์ทันที แต่คิดอย่างรอบคอบก่อนจะออกความเห็น ถึงแม้จะรู้เยอะ แต่ไม่ค่อยพูด หรือบอกอะไรให้ใครรู้ แต่มักจะเป็นคนที่พูดถูก และให้ข้อมูลถูกต้องเสมอธรรมชาติสุดๆ คือ เป็นนักตั้งคำถาม เพื่อให้มั่นใจว่าทุอย่างถูกต้อง และสมบูรณ์แบบ ตัวอย่างเหตุการณ์ เช่น ถ้ามีคนพบว่า มีน้ำมันเลอะพื้น คนสีแดงจะบ่นกับคนใกล้ตัว และสั่งให้ทำความสะอาดพื้นให้เรียบร้อย คนสีเหลืองอาจจะมองข้ามพื้นที่เลอะ และลืมไป โต๊ะทำงานกลุ่ม จนกระทั่งเหยียบพื้นลื่นล้ม คนสีเขียวจะรู้สึกแย่ที่มองเห็นพื้นเลอะ เพราะนี่หมายความว่า มีปัญหาแต่ผู้คนไม่สนใจ ส่วนคนสีน้ำเงิน จะเริ่มต้นตั้งคำถามก่อนเลยว่า ทำไมถึงมีน้ำมันเลอะพื้น คำตอบที่ได้อาจเพราะปะเก็นรั่ว คนสีน้ำเงิน ก็จะถามต่อว่าทำไมมันถึงรั่วได้ เพราะปะเก็นเราภาพต่ำหรือเปล่า และถามต่อไปอีกว่า ทำไมเราถึงได้มีปะเก็นเราภาพต่ำอยู่ในโรงงาน เพราะแผนกจัดซื้อต้องการประหยัดงบอย่างนั้นหรือ และสุดท้าย วิธีจัดการปัญหา อาจไปถึงการทบทวนวิธีการจัดซื้อ แทนที่จะแค่ ทำความสะอาดพื้นที่เลอะน้ำมัน เด่นสุดๆ คือ สงบ คิดก่อนพูดเสมอ ไม่หลงกลใครง่ายๆ จะต้องตรวจสอบทุกอย่าง ใส่ใจคุณภาพของงาน ถ้าต้องทำงานกับคนสีน้ำเงิน ต้องเตรียมข้อมูลให้มากพอ และรอบด้าน เพราะนั่นจะแสดงให้เห็นถึงกระบวนการคิดและตรรกะที่ใช้ในการตัดสินใจของเรา และต้องให้เวลาคนสีน้ำเงินในการคิด โต๊ะทำงานกลุ่ม วิเคราะห์ ประเมิน ก่อน เพื่อให้ผลงานสมบูรณ์แบบขึ้นไปอีกส่วนโต๊ะทำงานของคนสีน้ำเงิน มีข้อมูลของงาน จัดวางข้อมูลและอุปกรณ์อย่างทุกอย่างที่จำเป็นต่อการทำงานเป๊ะ ทุกองศา อย่าไปเผลอหรือขยับของเค้าเชียว มองปร้าดเดียวจะรู้ทันทีว่าใครมาทำอะไรบนโต๊ะของชั้น และเป็นคนที่จะเอาของกลับเข้าที่เดิมให้กลับสู่ระเบียบเสมอแดง คิดเร็ว และอยากที่จะลุยในทันที มักจะทำ อยากจะสร้างสิ่งต่างๆให้เกิดขึ้น แต่ก็มักจะถูกมองว่า เป็นคนชอบบงการ และทำงานด้วยยาก แดง มักจะเหยียบเท้าคนอื่นๆ อยู่เสมอคนสีเหลือง ก็สนุกสนานตลอดเวลา คิดสร้างสรรค์ และช่วยให้คนที่อยู่ด้วย อารมณ์ดีขึ้นได้ แต่ถ้าปล่อยให้คนสีเหลืองพูด ก็จะพูดอยู่คนเดียว ใช้ออกซิเจนในห้องนั้น จนหมด ไม่เปิดโอกาสให้คนอื่นๆ ได้พูดคนสีเขียว ไปไหนกับใครได้ง่าย เพราะเป็นคนที่สบายๆ และคอยเป็นห่วงใยคนอื่นๆ แต่คนสีเขียวมักจะลังเล ไม่กล้าตัดสินใจเริ่มทำอะไร กลายเป็นคนที่ไม่มีจุดยืนคนสีน้ำเงิน นั้นสงบ คิดก่อนพูดเสมอ ใส่ใจคุณภาพของงาน แต่ความที่ชอบสงสัย ชอบถามของคนสีน้ำเงินก็อาจทำให้มีปัญหากับคนรอบข้างได้ไม่มีระบบการจัดประเภทคนแบบใดที่สมบูรณ์แบบ การจัดประเภทคนออกเป็น 4 แบบนี้ จึงเป็นเพียงจิ๊กซอว์หนึ่งของชีวิต ที่สำคัญ แต่ก็ไม่ได้บอกภาพรวมของคนไม่มีพฤติกรรมใดที่ถูกต้องหรือผิด ไม่มีพฤติกรรมที่เหมาะสมกว่าแบบอื่น เราแต่ละคนต่างเป็นตัวของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องสงสัยว่าทำไมเราเป็นแบบนี้ได้อย่างไร ไม่ว่าเราจะเป็นแบบไหน แสดงออกอย่างไร ไม่ว่าคนอื่นจะมองอย่างไร มันก็ดีอยู่แล้ว ไม่ได้มีอะไรผิดปกติหลังจากที่เข้าใจพื้นฐานของแต่ละสีแล้ว ก็ต้องพยายามปรับคลื่นความถี่ ให้ตรงกัน ทำให้เค้ารู้สึกว่า เราเข้าใจ ทำให้เค้าเชื่อใจเรา ไว้วางใจเรา เค้าจะเห็นตัวเองอยู่ในตัวเรา ทำให้คนนั้น กลายเป็นพวกเดียวกับเราอย่างที่เราเห็น แต่ละสี ต่างก็มีข้อบกพร่อง มีส่วนส่งเสริมกัน ดีที่สุด คือการพบกันอยู่ตรงกลางนั่นเอง! . - โต๊ะทำงานกลุ่ม 6ที่นั่ง

โต๊ะทำงานกลุ่ม สิ่งที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจซื้อ

????ทำงานแรกที่บ. Global❓ ภาษา, หน้าที่, สังคม, ค.กดดัน????✨⟡ สวัสดีคั้บ ‎(๑ˊ͈ ꇴ ˋ͈) วันนี้เค้าจะมารีวิวงานที่ตัวเองทำอยู่เผื่อเป็นแนวทางให้เพื่อน ๆ ชาว????8 ทุกคนค่ะ + อยากเก็บเป็นไดอารี่ด้วย ✏️???? เริ่มแรกเลย เราเป็น first jobber จบจิตวิทยา(สายเด็ก)มาค่ะ เพิ่งเข้ามาทำงานที่นี่ได้เดือนกว่า ๆ เอง j-j สาเหตุที่เราย้ายสายไม่มีอะไรซับซ้อนเลย เราแค่อยากรู้ว่ามีงา

//4 เหตุผลว่า ทำไมต้องเลือกใช้โต๊ะผู้บริหาร ในยุคสมัยนี้การเลือกโต๊ะทำงาน เป็นสิ่งสำคัญ เพราะการที่คุณมีโต๊ะทำงานที่มีช่วยสนับสนุนในด้านการทำงานได้อย่างสะดวกสบาย หรือโต๊ะที่มีการออกแบบสวยงาม จะช่วยให้คุณสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังนั้นวันนี้เราจึงจะมาแนะนำ 4 เหตุผลว่า ทำไมต้องเลือกโต๊ะผู้บริหาร โต๊ะผู้บริหารมีความแตกต่างกับโต๊ะทั่วไปอย่างไร และองค์ประกอบส่วนฟังก์ชั่นในการทำงานของที่คุณไม่เคยรู้ว่าก่อน และโต๊ะผู้บริหารเหมาะกับใครบ้าง ในบทความนี้เราได้เตรียมข้อมูลทั้งหมด เพื่อให้ทุกคนได้สามารถเข้ามาอ่าน และนำไปตัดสินใจในการเลือกโต๊ะทำงานได้อย่างถูกต้อง ถ้าพร้อมกันแล้วเรามาลงรายละเอียดกันเลยครับ จริงอยู่ว่าโต๊ะผู้บริหารเป็นโต๊ะที่มีราคาแพงมากกว่าโต๊ะอื่น ๆ ทั่วไป ซึ่งทำให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ยาก แต่ถ้าหากคุณต้องการโต๊ะที่มีประสิทธิภาพใช้งานได้ครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น การเก็บของจำนวนมาก ขนาดพื้นที่กว้างขว้าง ใช้งานได้หลายปี และการออกแบบดีไซด์ที่สวยงามทันสมัย และฟังก์ชั่นเสริมอื่น ๆ อีกมากมาย โต๊ะผู้บริหารเป็นโต๊ะประเภทเดียวที่ตอบโจทย์องค์ประกอบเหล่านี้ได้อย่างดี ดังนั้นหากคุณจะตัดสินใจเลือกโต๊ะซัก 1 ตัว คุณควรที่จะลงทุนซื้อโต๊ะผู้บริหาร รับประกันว่าตุ้มค่าอย่างแน่นอน ถ้าถามว่าโต๊ะผู้บริหารเหมาะกับใคร ต้องตอบเลยว่าโต๊ะผู้บริหารเหมาะกับทุกคน โดยเฉพาะกับผู้ประกอบการระดับสูงหรือคนที่ทำงาน Work from Home โต๊ะผู้บริหารถือว่าตอบโจทย์ในเรื่องของความสะดวกสบาย และประสิทธิภาพในการใช้งาน โต๊ะผู้บริหารเป็นโต๊ะที่ออกแบบมาให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน มีความทันสมัย และเหมาะแก่การนำไปตกแต่งห้องทำงาน หลายธุรกิจบริษัทใหญ่ ๆ นิยมเลือกใช้โต๊ะผู้บริหาร เป็นโต๊ะสำหรับผู้บริหารระดับสูงภายในองค์กร เพราะว่าโต๊ะผู้บริหารจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี ทำให้คนที่ผ่านเข้ามาเห็นรู้สึกว่าบริษัทมีความทันสมัย ทำให้ส่งผลดีต่อความน่าเชื่อของพนักงานและลูกค้าได้เป็นอย่างดี โต๊ะผู้บริหารเป็นโต๊ะที่มีขนาดใหญ่กว่าโต๊ะแบบทั่วไป ซึ่งการที่มีโต๊ะขนาดใหญ่ จะช่วยให้คุณสามารถวางสิ่งของได้เป็นระเบียบเรียบร้อยยมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โทรศัพท์ ดอกไม้ แจกัน หรือผลงานต่าง ๆ สามารถนำมาวางตกแต่งประดับตก ได้อย่างสวยงาม และลดอุปสรรคเวลาทำงานสามารถมีพื้นที่สำหรับทำงานเอกสาร และงานอื่น ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย โต๊ะผู้บริหาร เป็นโต๊ะที่มาพร้อมตู้เก็บของ ทำให้คุณสามารถเก็บสิ่งของสำคัญต่าง ๆ ได้อย่างปลอดภัย และเป็นระเบียบเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถล็อคให้เก็บเอกสารต่าง ๆ ที่สำคัญ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับการทำงานของคุณได้เป็นอย่างดี คุณสามารถเก็บสิ่งของขนาดใหญ่ได้ หรือสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก ส่งผลต่อพื้นที่บริเวณรอบห้องของคุณ ไม่มีสิ่งของวางเกะกะ ดูมีความเรียบง่ายมากยิ่งขึ้น โต๊ะผู้บริหาร มีการออกแบบให้เพิ่มความสะดวกสบายกับการทำงานมากยิ่งขึ้น โดยการเพิ่มฟังก์ชั่น เช่น ช่องเก็บสายไฟ ช่องเก็บอุปกรณ์เครื่องเขียน ปลั้กไฟ เป็นต้น ส่งผลต่อการวางคอมพิวเตอร์ช่วยลดปัญหาสายไฟ ที่พันยุ่งเหยิงได้ทำให้ผู้ใช้งานปลอดภัย และช่องเก็บเครื่องเขียนช่วยให้คุณหยิบอุปกรณ์ได้ง่าย ๆ และลดปัญหาเครื่องเขียนหายบ่อย ๆ ได้เป็นอย่างดี ทั้งหมดนี้เป็น 4 เหตุผล ว่าทำไมต้องเลือกโต๊ะผู้บริหาร หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับทุกคนสามารถตัดสินใจเลือกซื้อโต๊ะผู้บริหารได้ง่ายมากยิ่งขึ้น หากใครสนใจสามารถสั่งซื้อผ่านเว็บ Ofisu รับประกับในเรื่องของคุณภาพ ความแข็งแรงปลอดภัย และอายุการใช้งานยาวนาน และยังมีบริการหลังการขาย เช่น ประกอบเฟอร์นิเจอร์ฟรี จัดส่งฟรี และอื่น โต๊ะทำงานกลุ่ม 2ที่นั่ง ๆ อีกมากมาย . (โต๊ะทำงานกลุ่ม 2ที่นั่ง)


การแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้เปลี่ยนแปลงสมดุลชีวิตและการทำงานไปตลอดกาลองค์กรต่างๆ ต้องเร่งหาวิธีทำให้การทำงานจากระยะไกลตอบสนองความต้องการของตนอย่างกะทันหันเมื่อความกังวลเรื่องสุขภาพทั่วโลกลดลง เห็นได้ชัดเจนว่าการกลับไปทำงานในสำนักงานจะไม่เหมือนกับช่วงก่อนการแพร่ระบาดจากรายงาน Work Trend Index ปี 2022 มีหลายสาเหตุที่ก่อให้เกิดผลกระทบนี้: —53 เปอร์เซ็นต์ของพนักงานต้องการให้ความสำคัญกับสุขภาพและสวัสดิภาพของตนมากกว่าการทำงาน ในขณะที่ 18 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามลาออกจากงานในปีที่แล้ว —38 เปอร์เซ็นต์ของพนักงานแบบไฮบริดกล่าวว่าปัญหาที่ใหญ่ที่สุดก็คือการทราบเวลาและเหตุผลที่ต้องมาที่สำนักงาน —แม้ว่าพนักงานแบบไฮบริดส่วนใหญ่จะสามารถรักษาความสัมพันธ์ในทีม (58 เปอร์เซ็นต์) แต่มีพนักงานระยะไกลเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้นที่สามารถรักษาความสัมพันธ์กับทีมโดยตรงของพวกเขา และอีกจำนวนหนึ่ง (42 เปอร์เซ็นต์) มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับผู้คนภายนอกทีม การใช้โต๊ะส่วนกลางมอบโซลูชันที่มีประสิทธิภาพสำหรับข้อกังวลและอุปสรรคเหล่านี้โดยทำให้เวลาที่บ้านและเวลาในสำนักงานมีความสมดุลกันในสำนักงาน พนักงานยังคงได้รับประโยชน์จากการได้เจอเพื่อนร่วมงานแบบตัวต่อตัว ซึ่งส่งผลให้เกิดความเชื่อถือในสายสัมพันธ์และการทำงานเป็นทีมมากขึ้น และการใช้โต๊ะส่วนกลางช่วยให้พนักงานบรรลุเป้าหมายนี้ด้วยความยืดหยุ่น เมื่อพูดถึงการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงาน การใช้โต๊ะส่วนกลางสามารถช่วยได้มากเช่นกันแม้ว่าเทคโนโลยีการประชุมเสมือนจะก้าวหน้าอย่างมากตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 เพื่อให้มีส่วนร่วมมากขึ้น แต่ในบางสถานการณ์ ก็ไม่มีอะไรเหมือนกับการโต้ตอบแบบพบปะกันตัวต่อตัวในสำนักงานการใช้โต๊ะส่วนกลาง พนักงานยังคงได้รับประโยชน์จากการได้เจอเพื่อนร่วมงานแบบตัวต่อตัว ซึ่งส่งผลให้เกิดความเชื่อถือในสายสัมพันธ์และการทำงานเป็นทีมมากขึ้น

Report this wiki page